“ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล แพ้เกม พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 9 นัดแบบหมดสภาพ

หลังบุกไปพ่าย ลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ ด้วยสกอร์ 0-4 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาด้วยรูปเกมที่บอกเลยว่า”สู้ไม่ได้” ซึ่งถ้าไม่ได้แอรอน แรมส์เดล ช่วยเซฟเอาไว้อาจโดน 6-7 ตุงและนี่คือผลสอบของลูกทีมมิเกลอาร์เตต้าแต่ละคนในแมตช์นี้ 11 ผู้เล่นตัวจริงแอรอน แรมส์เดล : 7แม้เสียประตูถึง 4 ลูก แต่ถ้าไม่ได้เจ้าตัว อาร์เซน่อลคงเละกว่านี้เพราะตลอดทั้งเกมช่วยเซฟถึง 5 ครั้งและมีถึง 3-4 หนที่เซฟได้เข้าตามากๆ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ : 5 ช่วยต้นเกมทำผลงานได้โอเค

แต่หลังจากนั้นเริ่มเอาซาดิโอมาเน่ไม่อยู่ และโดนเจาะเรื่อยๆเบนไวท์:5ต้านทานพลังเกมรุกและความเร็วของเจ้าถิ่นไม่ไหวแถมโดน ดิโอโก้ โชต้า โยกหลอกง่ายๆในจังหวะเสียประตูที่สองกาเบรียลากัลเญส:5.5ถึงแม้บางจังหวะรับมือกับโมฮาเหม็ดซาลาห์ ได้ดี แต่ตอนเสียประตูแรกนั้นเจ้าตัวน่าจะป้องกันได้ดีกว่านี้ รวมถึงลูกสามที่หลุดตำแหน่งนูโน่ตาวาเรส: 4 จริงๆ แล้วเล่นได้โอเคในช่วงครึ่งแรก แต่กลายเป็นคนดับความหวังของทีมที่ดันจ่ายบอลเข้ากลางพลาดแบบไม่น่าให้อภัยจนทีมเสียประตูที่สองทั้งที่เพิ่งแย่งบอลมาจาก ซาลาห์ ได้บูกาโย่ซาก้า:5.5 หวือหวาแค่ช่วงต้นเกมแต่หลังจากนั้นหายเงียบโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังที่แทบไม่ได้บอลเลย โธมัส ปาร์เตย์ : 5แม้ช่วงครึ่งหลังมีจังหวะยิงไกลแบบได้ลุ้นแต่ถือเป็นวันที่เจ้าตัวโดนแดนกลาง ลิเวอร์พูลกลืนหายไปจากเกม แถมดูไม่ค่อยมีความพยายามในการช่วยเกมรับ

อัลแบร์ แซมบี โลก็องก้า : 4.5 มีปัญหาในการรับมือผู้เล่นแดนกลางเจ้าถิ่นอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะการถูกเพรสซิ่ง แถมเสียบอลง่ายๆ หลายครั้ง ไม่แปลกใจที่โดนเปลี่ยนตัวออกช่วงต้นครึ่งหลัง เอมิล สมิธ โรว์ : 5.5 เริ่มต้นเกมได้น่าพอใจ ดูมีความมั่นใจในการเล่น มีจังหวะผ่านบอลสวยๆ ให้เห็น แต่สุดท้ายก็เป็นอีกคนที่ค่อยๆ หายไปจากเกม อเล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ : 5 อีกคนที่ทำได้ค่อนข้างดีในช่วงต้นเกม แต่ก็ค่อยๆ หายไปโดน ฟาบินโญ่ จัดการแทบทุกครั้งที่ได้บอล ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง : 5 ได้บอลน้อยมาก แทบไม่มีอันตรายใดๆ ตลอดทั้งเกมได้เสียวหนเดียว

จากจังหวะได้หลุดเข้าไปยิงตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ ช่วงครึ่งหลังสำรองที่ได้ลงเล่นเอนส์ลี่ย์เมตแลนด์-ไนล์ส (แทน แซมบี โลก็องก้า น. 53) : 5 แทบไม่ได้ดีกว่าคนที่เจ้าตัวลงไปแทน แถมมีเสียบอลง่ายๆในแดนตัวเองมาร์ติโอเดอการ์ด(แทน ลากาแซ็ตต์ น. 67) : 5 ไม่สามารถช่วยพลิกเกมได้ ทำได้แค่วิ่งคอยไล่บอลโมฮาเหม็ดเอลเนนี่(แทน ปาร์เตย์ น. 84) :ไม่สามารถให้คะแนนได้เกมกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมที่สนามสตาดิโออเรคคี่เจ้าบ้านซาแลร์นิตาน่าทีมบ๊วยของตาราง รับการมาเยือนของจ่าฝูงอินเตอร์ มิลานเจ้าถิ่นผลงานในลีกแพ้มา3นัดติกมนี้ส่งฟร้องค์ริเบรี่ดาวยิงวัยเก๋าชาวฝรั่งเศสล่าตาข่ายร่วมกับซิมี่ ส่วนทัพ”งูใหญ่”ฟอร์มยอดเยี่ยมชนะในลีกมา5เกมติดแมตช์นี้วางหน้าคู่เป็นเอดินเชโก้กัอเล็กซิสซานเชซโดยมีฮาคานชัลฮาโนกลู และอิวานเปริซิชปั้นเกมแดนกลางเปิดฉากครึ่งแรกมาเพียงแค่ 11 นาทีเท่านั้น อินเตอร์มิลานบุกมาชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0จากจังหวะที่ ฮาคาน ชัลฮาโนกลูเปิดเตะมุมเข้ามาให้อิวานเปริซิช

เทกตัวโขกเข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 4 ของดาวยิงเลือดโครแอตในฤดูกาลนี้ นาที 33 เสียงเชียร์เจ้าถิ่นต้องเงียบกริบอีกครั้งหลัง “งูใหญ่” สกอร์หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ โบรโซวิช แทงคิลเลอร์พาสให้ เชโก้ ทางด้านซ้าายก่อนจะปาดเลียดมาหน้าประตูให้ เดนแซล ดุมฟรีส์ วิงแบ็คหลุดเข้าไปแปบอลเช็ดใต้คานเข้าไป แม้เจ้าถิ่นจะฟ้องว่าบอลยังไม่เข้า แต่ผู้ตัดสินได้รับสัญญาณว่าบอลข้ามเส้นประตูไปแล้วเป่าให้ อินเตอร์ มิลาน ได้ประตู

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ greekfreegames.com